บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

สมาธิในพระไตรปิฎกฯ ๙

เมื่อผมนำบทความนี้ เผยแพร่ที่ gotoknow มีผู้เข้ามาให้ความเห็นประปราย ดังนี้

คนแรกเลย คือ คุณ dr.drtk [IP: 95.16.61.80] 22 มกราคม 2553 05:56 เข้ามาให้ความเห็นดังนี้

ถ้าให้เงินผมพันล้าน แล้วให้เป็นดอกเตอร์อย่างคุณ และมีความคิดเห็นแบบคุณ ผมไม่เอาครับ  ชัดไหมครับ

คุณวิเศษและความบริสุทธิ์ของบุคคล ปกติ มันดูกันได้ครับ แม้เพียงแค่มอง แม้ยังไม่ได้พูดคุย

ใน gotoknow ผมไม่ได้ตอบความเห็นนี้  วันนี้ ก็เลยขอตอบเลย ดังนี้

คุณ dr.drtk แกน่าจะเป็นโรคจิต อยากเรียนสูงๆ ชื่อนามแฝงยังตั้งเป็น dr. แล้วถ้าพูดมาทำนองนี้ “ถ้าให้เงินผมพันล้าน แล้วให้เป็นดอกเตอร์อย่างคุณ” พวกนี้ไม่มีโอกาสได้เรียนปริญญาเอกหรอก

เป็นความใฝ่ฝันลมๆ แล้งๆ ต้องแห้งเหี่ยวล่วงโรยไปตามกายเวลา (สำนวนภาษาชักจะหรูหราขึ้น)

ท่าน dr.drtk สมองหมาปัญญาความท่านนี้ ไม่ได้แสดงภูมิรู้อะไรเลย  ผมกล้าวิพากษ์วิจารณ์คณะวิจัยจาก มหาวิทยาลัยมหิดลนี่ ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว  แล้วที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ไป ก็ถูกต้องแล้ว

ผมเป็นนักวิจัยเหมือนกัน 

ถ้าคุณ dr.drtk อยากจะแสดงภูมิรู้ก็ควรจะบอกว่า ที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ไปนั้น “ผิด”  และผิดอย่างไร ที่ถูกควรเป็นอย่างไร

ในลักษณะเดียวกันกับที่ผมวิพากษ์วิจารณ์คณะวิจัยไปนั้น 

โง่ซะไม่มี  แต่อยากจะแสดงความเห็น

คนต่อไปคือ คุณสายสมร ใจอารี (22 มกราคม 2553 06:25)

การให้ความสำคัญวิชาธรรมกาย เป็นการหลง ยึดติดไหมคะ การกล่าวถึงเรื่องธรรมกายซึ่งเป็นแค่เศษเสี้ยวน้อยนิดของเนื้อหาในพุทธธรรม ทำไมจึงให้ความสำคัญจนลุ่มหลงจนเกิดทุกข์เช่นนี้เล่าคะ

รอยตีนกาในอากาศมีไหมคะ หลงทางอยู่กันทำไมคะ

คุณสายสมรนี้ เป็นพวกนักวิชาการ คือ อยากจะเขียนเกี่ยวกับศาสนาเป็นภาษา สวยๆ หรูๆ แต่ไม่รู้เรื่องหรอกว่า ไอ้ที่เขียนมาหมายความว่าอย่างไร เอาไปใช้ปฏิบัติได้หรือไม่

เพ้อเจ้อหาที่ลงไปวันๆ  ผมจึงไม่ได้ตอบ

ต่อไปคือ คุณ เมธิโก [IP: 76.24.254.71] 21 กุมภาพันธ์ 2553 17:13

จำได้กันไหมท่าน ดร. ท่านว่าพระธัมชโยจะ มรณะภาพในปีที่แล้ว ไหนยังไม่เห็นท่าน มรณะภาพเลย  ออ แล้วเสือกลบไปแล้วจำได้เป่า

ผมตอบไป ดังนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2553 11:37)

เรียน คุณเมธิโก [IP: 76.24.254.71]

กำลังรอเหยื่ออยู่เลย ครั้งนี้เหยื่อมาช้าหน่อย แต่ก็ดีกว่ายังไม่มา เรื่องมันเป็นอย่างนี้

ผมรู้ข่าวมาจากหมอท่านหนึ่ง ท่านเป็นเพื่อนรุ่นมัธยมของอดีตพระเมตตานันโท ท่านบอกว่า ตอนนี้ (หมายถึงตอนที่ได้ยินข่าวนั้น) พระธัมชโยถูกเบาหวานกิน จนขาดำแล้ว

หมอแนะนำให้ตัดขา แต่ท่านไม่ยอมตัด เพราะ ไปโกหกญาติโยมไว้เยอะ ว่าเป็นต้นธาตุบ้าง อะไรบ้าง ถ้าถูกตัดขาไปแล้ว ก็จะมีคำถามตามมามากมาย

หมอสันนิษฐานว่า เป็นเบาหวานขาดำอย่างนี้ ถ้าไม่ตัด พิษของโรคก็อาจจะทำให้ตายได้ภายใน 6 เดือน ผมก็เอามาเล่าสู่กันฟัง

แต่ทำไมถึงยังไม่ตาย (ตรงนี้ขอบอกว่า คณะของแพทย์เจ๋งๆ ยังพยากรณ์ผิดได้ ทำไมกับความคิดของคนๆ เดียว จึงพยากรณ์ผิดไม่ได้)

1) เงินถึง หมอถึง มันถึงยึดอายุไปได้
2) มารมันเลี้ยงไว้

ข้อ 2 นี่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ เป็นผู้บอกเอง
ผมขอบอกว่า ในกรณีแบบนี้ ถ้าเป็นคนขี่สามล้อตายไปนานแล้ว

ที่นี้ ผมไม่ได้มีเจตนาจะลบข้อเขียนในส่วนนั้นไป แต่ผมปรับปรุงบล็อกใหม่ จึงตัดความเห็นออกไปบ้าง แต่มันก็มั่นใจว่า เดี๋ยวพวกสาวกหน้ามึนของวัดพระธรรมกายก็มาอีก จะช้าหรือเร็วเท่านั้น

ผมขอพยากรณ์ต่อว่า พระธัมชโยนี่ ต้องตายก่อนเราสองคนแน่ๆ เมื่อใดพระรูปนี้มรณภาพ ความผิด ความเลว ระดับมโหฬารพันลึก อย่างไม่เคยคิดว่าจะมีคนทำในโลกนี้ ยุคนี้ ก็จะปรากฎออกมา

คุณจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน นอกจากนั้นแล้ว สาวกของวัดพระธรรมกายไปอบายภูมิทุกคน คำนี้หลวงพ่อวัดปากน้ำ พูดออกมาเอง ให้กลุ่มของพวกผมฟัง

ถ้าคุณอยากพิสูจน์ว่า พระธัมชโยเป็นเบาหวานจนขาดำหรือปล่าว ก็ไปขอดูซิ แต่ว่าเข้าถึงหรือเปล่า

คุณเมธิโก [IP: 76.24.254.71] 22 กุมภาพันธ์ 2553 14:59 ยังไม่ยอมไปไหน เข้ามาถามอีก

มารมันเลี้ยงไว้ อยากรู้ว่าเลี้ยงไว้ ทำไม

แล้วทำไมเลี้ยงไว้ไม่ดีต้องเป็นเบาหวานด้วยครับ ถ้ามารเลี้ยงไว้ เป็นประโยชน์กับมาร ทำไมต้องทำให้ท่านเป็นเบาหวาน มรณะภาพเร็วด้วยครับ

ไม่เข้าใจเลยครับ ตอบด้วยนะครับ

ผมตอบไป ดังนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2553 11:13)

เรียน คุณ เมธิโก [IP: 76.24.254.71]

คราวนี้ ถามสุภาพก็ต้องตอบแบบสุภาพไว้ก่อน แต่คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ตามแต่ใจ

พระธัมมชโยนี้ มารส่งมาเกิดเพื่อทำลายวิชชาธรรมกาย  ถ้าถามว่ารู้ได้ยัง ก็ขอตอบแบบนี้

1) ตามหลักวิชชาธรรมกายเลยนั้น กายของเรามี 18 กาย เอาแค่ 2 กายแรก คือ 1) กายมนุษย์หรือกายเนื้อ 2) กายมนุษย์ละเอียด

กายมนุษย์ละเอียดนี้ ตามธรรมชาติของท่าน ท่านโกหกไม่เป็น เมื่อถามอะไรไปแล้ว ท่านก็ตอบตรงๆ เสมอ

กลุ่มของพวกผมนี้ สามารถคุยกับกายมนุษย์ละเอียดได้ นิพพานยังไปได้ พระพุทธเจ้ากับหลวงพ่อวัดปากน้ำนี้ก็เข้าไปพูดคุยด้วยเป็นประจำ (ท่านสั่งให้ทำงาน)

กายมนุษย์ละเอียดของพระธัมมชโยเป็นกายดำสนิท เป็นกายมารแท้ๆ

2) ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำนี้ มีหลายกลุ่ม ไม่มีกลุ่มไหนเลย ที่ทำชื่อเสียงเสียหายให้กับวิชชาธรรมกายเท่ากับวัดพระธรรมกาย

มีคดีขึ้นศาลไม่รู้กี่คดี ทั้งเรื่องผู้หญิงและเรื่องเงิน

หลวงพ่อวัดปากน้ำ เน้นเรื่องการสอนให้คนเห็นดวงเห็นกาย ท่านกล่าวไว้ว่า สอนให้คนเห็นดวงธรรม แค่ 1 คน ได้บุญมากเท่ากับบวชพระ 10,000 รูป

คนที่เข้าวัดพระธรรมกายเป็นแสนๆ เห็นดวงเห็นกายสักกี่คน วิชชา 18 กายเป็นวิชาเบื้องต้น ก็โกหกลูกศิษย์ว่าเป็นวิชาชั้นสูง ห้ามพูดถึง ผมสอน 18 กายได้ทุกเดือน

พระธัมมชโยเอาเด็กนักเรียนมาวัด 500,000 คน เด็กติดหวัดกันไปทั่วประเทศ แต่ไม่เคยสอนเด็กเหล่านั้นให้เห็นดวงธรรมเลย เอามาเพื่อสร้างภาพ

พระธัมมชโยสร้างภาพด้วยการบวชพระ 100,000 รูป แต่ไม่เคยสอนพระเหล่านั้น ให้เห็นดวงธรรมเช่นเดียวกัน และไม่ยอมชี้แจงรายได้รายจ่ายเลยว่า ไปเรี่ยไรเงินมาเท่าไหร่ จ่ายไปเท่าไหร่

ผมเองไปสอนทุกเดือนตามโรงเรียนต่างๆ ได้บารมีมากมายกว่าพระธัมมชโยไม่รู้เท่าไหร่

ถึงขั้นตอบปัญหา
การทำแบบธัมมชโยนั้น ทำให้มารมีกำลังมากขึ้น หลอกลูกศิษย์ว่า ทำพิธีถวายข้าวให้พระพุทธเจ้า แต่ไม่เคยถึงนิพพานเลย มารเอาไปกินเรียบ

การเป็นเบาหวานของท่านนั้น ไม่รู้สาเหตุ แต่การที่ท่านตายช้า ตายยาก ตายเย็น เพราะมารมันเลี้ยงไว้ พระรูปนี้ตายเร็ว มารมันก็อดกินเร็ว

ส่วนใหญ่ความรู้ที่ได้มานี้ ได้มาจากการปฏิบัติธรรม เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เข้าไปซักถามหลวงพ่อ

เชื่อไม่เชื่อก็ลองคิดดู

ต่อไปคือคุณกวาง [IP: 202.28.51.71] 03 มีนาคม 2553 17:35

ขอโทษนะครับ..

ที่ผมคำที่คุณเห็น..อืม...ผมงงครับ เหมือนกับคุณเจือด้วยโทสะ ยังไงไม่รู้ ผมถามหน่อยนะครับ ว่า "ธรรมกาย" ที่คุณเข้าถึงเป็นภาพเหมือนพระธรรมกายที่วัดพระธรรมกายวาดหรือเปล่าครับ

เพราะที่วัดพระธรรมกายสอนว่า พระธรรมกาย ใสยิ่งกว่าเพชร ใสยิ่งกว่าแก้ว สว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน

ธรรมกายมีเกตุบังตูมที่สวยงามมาก โครงการบวชพระหนึ่งแสนรูปก็มีพระหลายรูปเข้าถึงพระธรรมกาย

โดยการนั่งนิ่งๆสบายๆ แปลกครับ อ่านดูผลการปฏิบัติธรรมได้ที www.dmc.tv ครับหลายประเทศก็ได้ปฏิบัติธรรม

และเห็นดวงธรรม ที่เป็นดวงกลมใสๆมากๆ และเห็นพระธรรมกายด้วย แล้วทำไมคุณถึงว่าไม่มีใครเข้าถึงพระธรรมกายที่วัดพระธรรมกายครับ ขนาดคนข้างนอกทำมาหากินยังได้ขนาดนี้ ถ้าพระที่วัดพระธรรมกายซึ่งปฏิบัติธรรมเป็นเยี่ยมจะขนาดไหน

ผมตอบไป ดังนี้ (05 มีนาคม 2553 10:00) แต่ไม่ได้ล็อกอินเข้าไปตอบ

เรียน คุณ กวาง [IP: 202.28.51.71]

1) คุณลองไปหาหนังสือของวัดพระธรรมกายที่อธิบายเรื่องวิชชาธรรมกายในระดับสูงมาให้ผมดูหน่อยว่ามีไหม ไม่มีครับ เอกสารของพระธัมมชโยหลอกลวงให้ประชาชนทำบุญอย่างเดียว เอาสวรรค์มาล่อเงินอย่างเดียว

2) โครงการบวชพระแสนรูป และอุบาสิกาแก้วอีก 100,000 รูป มีขึ้นเพราะ หลอกลวงเอาเงินประชาชนอีกแล้ว เรี่ยไรไปทั่วประเทศ มีการชี้แจ้งบ้างไหมว่า โครงการนี้มีเงินเข้ามาเท่าไหร่ ใช้ไปเท่าไหร่ โครงการนี้เกิดขึ้น เพราะวัดพระธรรมกายไม่มีโครงการก่อสร้างอะไรอีกแล้ว เป็นวิธีหลอกลวงเงินประชาชน ซึ่งไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์

3) พอพระธัมมชโยบอกว่า มีคนเห็นพระในท้อง ซึ่งตามหลักวิชาเป็นไปได้ แล้วคุณก็เชื่อเลยหรือ สำหรับผมนั้น ต้องตรวจสอบก่อนว่า การเห็นนั้นถูกต้องตามหลักวิชาหรือเปล่า เพราะมีกำหนดไว้เป็นหลักสูตร ไม่ใช่นั่งอยู่ดีๆ ก็เห็นพระ เห็นอย่างนั้นไม่แน่ว่าจะถูกต้องตามหลักสูตรหรือไม่

4) สำหรับที่ผมไปสอน ขอโทษครับ ออกเงินส่วนตัวครับ ไม่เคยเรี่ยไรประชาชนให้เสียเงินซักบาทเดียว และสอนให้ฟรีครับ ไม่เดือดร้อนต่อประชาชนแต่อย่างใด

5) ผมว่าคุณลองทำใจว่างๆ คือ เอาความเกลียดความชอบออกไปก่อน แล้วคุณลองไปดูซิว่า พระธัมมชโยแกเหมือนพระบ้างไหม

พระอะไรใส่เสื้อยืด พระอะไรพูดจากหลุกหลิก มีลูกคู่ซะด้วย แล้วไปตรวจสอบดูกับหนังสือของหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า พระธัมมชโยสอนตรงตามตำราของหลวงพ่อหรือเปล่า

6) ขอแถมอีกซักข้อ ผมสอนนักเรียนเห็นดวงธรรม เห็นกายธรรมประมาณร้อยละ 95 ประชาชนทั่วไป ประมาณร้อยละ 70 บวชพระแสนองค์ ถ้าให้ผมสอนก็จะเห็นดวงธรรม และกายธรรมประมาณ 70,000 รูป ไม่ใช่เห็นสุ่มเสี่ยงแค่รูป 2 รูปครับ

ผมเข้ามาตอบอีกครั้งหนึ่ง (05 มีนาคม 2553 10:27) เพราะตอบไปข้างบนไม่ได้ล็อกอินเข้าไปตอบ

ขออธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับ เพราะ ที่ตอบไปเมื่อกี้นี้ ลืมบอกว่า ผม ดร. มนัส โกมลฑา เป็นคนตอบเอง

เท่าที่ฟังพระธัมมชโยสอนที่ออกเคเบิ้ลทีวี เป็นการสอนที่มั่วสุดๆ ไม่ถูกหลักการสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำเลย ขอให้ไปตรวจสอบกับหนังสือของหลวงพ่อวัดปากน้ำได้

วัดพระธรรมกายไม่มีใครผ่านวิชชา 18 กาย เพราะ โกหกสานุศิษย์ว่าเป็นวิชชาชั้นสูงมาก ห้ามพูดถึงด้วย นอกจากนั้นยังโกหกอีกว่า วิชชานี้ ต้องให้พระสอนอย่างเดียว ฆราวาสสอนไม่ได้ ซึ่งก็โกหกอีก เพราะ ศิษย์ฆราวาสของหลวงพ่อวัดปากน้ำก็สอนได้โดยทั่วไป นอกจากนั้นแล้ว ชุดปราบมารของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็เป็นแม่ชีซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่พระ

ก็ในเมื่อวิชชาเบื้องต้นคือวิชชา 18 กาย ไม่มีใครทำได้ แล้วจะสอนวิชชาสูงๆ ได้อย่างไร

เรื่องเอกสารทางวิชาการของวัดพระธรรมกาย ลองไปดูซิว่า มีไหม มีแต่เอาหนังสือของหลวงพ่อไป แตกแยกย่อย เสียจน ไม่มีใครสามารถทำวิชชาอย่างนั้นได้

ประการสำคัญที่สุดเลย "มีการสอนวิชชาธรรมกายชั้นสูงในวัดพระธรรมกายหรือเปล่า"

พระธัมมชโยโกหกลูกศิษย์ว่า ให้ไปทำละเอียด หรือปฏิบัติธรรมชาติหน้า ชาติเรี่ยไรเอาเงินเข้าประเป๋าท่านก่อน

โดยสรุป การที่พระบวชเป็นแสนองค์ มีบ้างรูปนิมิตเห็นพระในท้อง ไม่ได้หมายความว่า ทำถูกต้องตามหลักวิชาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ขอให้ไปอ่านหนังสือ 3 เล่มนี้คือ

1) คู่มือสมภาร
2) มรรคผลพิสดาร 1
3) มรรคผลพิสดาร 2

หนังสือทั้ง 3 เล่มนี้ เป็นคำสอนวิชชาชั้นกลางและชั้นสูงของหลวงพ่อวัดปากน้ำ

เคยมีเรื่องเล่าว่า คุณฉลวย สมบัติสุข ผู้รวบรวมหนังสือคู่มือสมภาร เอาหนังสือคู่มือสมภารไปถวายพระธัมชโย แต่พระธัมชโยสั่งให้ลูกศิษย์นำไปเผาไฟทิ้ง

แล้ววัดพระธรรมกายจะมีหลักวิชชาไปสอนใครได้ ทำได้อย่างเดียวคือ อาศัยบารมีของหลวงพ่อวัดปากน้ำ เรี่ยไรลูกเดียว

มีคนใช้ชื่อ ยังไม่จบดร. [IP: 111.84.69.242] 23 มีนาคม 2553 11:09 เข้ามาให้ความเห็น โดยยกข้อความของผมขึ้นก่อน  เพื่อความสะดวกข้อความของผม ผมจะใช้อักษรสีดำ ส่วนข้อความของคุณยังไม่จบดร. นี่ ใช้อักษรสีน้ำเงิน
#1920244

ขออธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับ เพราะ ที่ตอบไปเมื่อกี้นี้ ลืมบอกว่า ผม ดร. มนัส โกมลฑา เป็นคนตอบเอง

เท่าที่ฟังพระธัมชโยสอนที่ออกเคเบิ้ลทีวี เป็นการสอนที่มั่วสุดๆ ไม่ถูกหลักการสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำเลย ขอให้ไปตรวจสอบกับหนังสือของหลวงพ่อวัดปากน้ำได้
///ไม่มั่วนะครับท่านดร. ที่ท่านสอนเป็นการสอนประยุกต์ และสิ่งที่สอนไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องลึกเกินไปมาสอนในวงกว้าง

วัดพระธรรมกายไม่มีใครผ่านวิชชา 18 กาย เพราะ โกหกสานุศิษย์ว่าเป็นวิชชาชั้นสูงมาก ห้ามพูดถึงด้วย
///อืม..ไม่ใช่ครับ พูด18กายได้แต่ควรพูดกับคนระดับจิตอย่างไรมากกว่า เหมือนจะสอนความรู้ดร.ให้นร.มัธยม ก็จะงงกันไปเปล่าๆครับ

นอกจากนั้นยังโกหกอีกว่า วิชชานี้ ต้องให้พระสอนอย่างเดียว ฆราวาสสอนไม่ได้ ซึ่งก็โกหกอีกเพราะ ศิษย์ฆราวาสของหลวงพ่อวัดปากน้ำก็สอนได้โดยทั่วไป นอกจากนั้นแล้ว ชุดปราบมารของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็เป็นแม่ชีซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่พระ
/// ท่านไม่เคยพูดครับ ขอให้รู้จริงเห็นจริงก็พูดได้ สำคัญว่ารู้จริงไหม

ก็ในเมื่อวิชชาเบื้องต้นคือวิชชา 18 กาย ไม่มีใครทำได้ แล้วจะสอนวิชชาสูงๆ ได้อย่างไร
/// รู้ได้ไงครับว่าไม่ได้กัน ศิษย์วัดพระธรรมกายถูกสอนให้ถ่อมตน ไม่โอ้อวดครับ

เรื่องเอกสารทางวิชาการของวัดพระธรรมกาย ลองไปดูซิว่า มีไหม มีแต่เอาหนังสือของหลวงพ่อไป แตกแยกย่อย เสียจน ไม่มีใครสามารถทำวิชชาอย่างนั้นได้
/// แล้วแต่คิดครับ เพราะที่วัดคิดว่าเรื่องละเอียดมากๆ ควรเรียนผ่านระบบมุขปาฐะ จะได้ดัดนิสัยไปด้วยได้ คือดีทั้งหยาบและละเอียดครับ

ประการสำคัญที่สุดเลย "มีการสอนวิชชาธรรมกายชั้นสูงในวัดพระธรรมกายหรือปล่าว"
/// มีขอรับท่าน ดร.

พระธัมชโยโกหกลูกศิษย์ว่า ให้ไปทำละเอียด หรือปฏิบัติธรรมชาติหน้า ชาติเรี่ยไรเอาเงินเข้าประเป๋าท่านก่อน
/// เอ..ใส่ความกันเกินไปไหมครับ

โดยสรุป การที่พระบวชเป็นแสนองค์ มีบ้างรูปนิมิตเห็นพระในท้อง ไม่ได้หมายความว่า ทำถูกต้องตามหลักวิชาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ขอให้ไปอ่านหนังสือ 3 เล่มนี้คือ
1) คู่มือสมภาร
2) มรรคผลพิสดาร 1
3) มรรคผลพิสดาร 2
หนังสือทั้ง 3 เล่มนี้ เป็นคำสอนวิชชาชั้นกลางและชั้นสูงของหลวงพ่อวัดปากน้ำ
เคยมีเรื่องเล่าว่า คุณฉลวย สมบัติสุข ผู้รวบรวมหนังสือคู่มือสมภาร เอาหนังสือคู่มือสมภารไปถวายพระธัมชโย แต่พระธัมชโยสั่งให้ลูกศิษย์นำไปเผาไฟทิ้ง
/// โอ..ฟังหูไว้หูครับ หลวงพ่อธัมมชโยท่านเคารพหลวงปู่มาก และยังพิมพ์หนังสือคู่มือสมภารถวายพระสังฆาธิการ30,000กว่าวัดมาแล้วครับผม

แล้ววัดพระธรรมกายจะมีหลักวิชชาไปสอนใครได้ ทำได้อย่างเดียวคือ อาศัยบารมีของหลวงพ่อวัดปากน้ำ เรี่ยไรลูกเดียว
/// ทาน ศีล ภาวนา ขยายงานพระศาสนา เขาทำครบครับท่าน

จากคนที่ ยังไม่จบดร.

คุณเด็ก [IP: 112.142.30.167] 15 พฤษภาคม 2553 22:54 เข้ามาให้ความเห็นดังนี้

มีแต่ข้อมูลโบราณมาโจมตีวัดพระธรรมกาย ป่านนี้เค้าไปกันถึงไหนต่อไหนแล้ว

ผมตอบไปดังนี้ (18 พฤษภาคม 2553 08:56)

เรียนคุณเด็ก [IP: 112.142.30.167]

ถ้าคุณคิดจะช่วยพระธัมมชโยคุณต้องทำมากกว่านี้ คุณต้องไปอ่านอีกมากมายมหาศาล แล้วมาโต้แย้งผมอย่างเป็นวิชาการว่า ที่ผมเขียนไปผิดหลักวิชาการ ผิดหลักตรรกวิทยาอย่างไร

คุณทำแค่นี้ ไม่ได้ช่วยอะไรพระธัมมชโยเลย แต่แสดงได้ว่า ศิษย์วัดพระธรรมกาย มีแต่โง่ ถูกหลอก ถูกจูงจมูกไปวันๆ มันสมองส่วนคิดไม่ได้เคยนำมาใช้เลย

ผมว่าเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสดีไหม หัดอ่าน และหัดคิด หาหลักฐานมาโต้แย้งผมอย่างเป็นวิชาการดีไหม

ผมเขียนไปทั้งหมด สามารถเขียนเป็นหนังสือขายได้ไม่รู้กี่เล่มแล้ว คุณโต้ตอบมาบรรทัดเดียว คนอ่านเขาก็เซ็งแล้ว ไม่ได้ช่วยอะไรในด้านวิชาการเลย...



สมาธิในพระไตรปิฎกฯ ๘

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 6

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 6 คือ ข้อความนี้

ดวงนิมิต คือ ดวงปฐมมรรค (ดวงธรรม)

นี่เป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุดที่ว่า พระสุธรรมยานเถระ/พระธัมมชโยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวิชาธรรมกายเลย

วัดพระธรรมกายภายใต้การนำของพระสุธรรมยานเถระ/พระธัมมชโยเอาชื่อเสียงของหลวง พ่อวัดปากน้ำไปหากินเท่านั้น

วิชาเบื้องต้นแท้ๆ ยังไม่รู้เรื่องเลย

ถึงว่า คนเข้าวัดพระธรรมกายเป็นแสนๆ จึงไม่มีใครทำวิชา 18 กายได้เลย  วิชา 18 กายเป็นวิชาที่เอื้อมไม่ถึงของวัดพระธรรมกายไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นวิชาในระดับอนุบาลของหลวงพ่อวัดปากน้ำ

ผมขอยืนยันว่า ดวงนิมิตไม่ใช่ดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ความแตกต่างกันมันเป็นอย่างนี้

1) ดวงนิมิตนี่ จะมีทิศทางกำกับอยู่ เพราะ ปกติคนเราเห็นสิ่งของได้นั้น ไม่ใช่เพราะ สิ่งของมันอยู่ใกล้เรา ไม่ใช่ว่าสิ่งของนั้นมันใหญ่ แต่เป็นเพราะ แสง

แสงได้สะท้อนจากสิ่งของเข้ามาที่ตาเรา เราจึงเห็นสิ่งของได้

จินตนาการของมนุษย์นั้น มันมีข้อจำกัด เราจะจินตนาการได้ในสิ่งที่เราเคยพบ เคยเห็นมาเป็นพื้นฐานเท่านั้น เช่น เราจินตนาการถึงพญานาคได้ เพราะ เขาบอกว่า คล้ายงู แต่มีหัว 7 หัว อย่างอื่นก็จินตนาการเสริมต่อกันไป

ดวงนิมิตนั้น เป็นการจินตนาการของเรา ดังนั้น จึงจะมีทิศทางกำกับ เพราะ เราเห็นสิ่งของก็มีทิศทางกำกับ แต่พอเราเห็นดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นการเห็นโดยรอบ ที่ไม่มีทิศทางกำกับ

อธิบายที่ดวงปฐมมรรคอธิบายยาก เพราะ เป็นทรงกลม อธิบายกับกายธรรมก็แล้วกัน เอาคำถามของนักศึกษาของภาคชีววิทยาของมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลกมาเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน

นักศึกษาถามว่า ทำไมตอนเห็นกายธรรม ทำไมเห็นทั้งข้างหน้าและข้างหลังของพระพร้อมกัน

คือ นักศึกษาเขาเห็นกายธรรมโดยรอบ ที่จริงเขาจะเห็นทั้งข้างนอกข้างใน ข้างบน ข้างล่าง ถ้าเป็นศัพท์ของหลวงป๋าก็ว่า

บน ล่าง นอก ใน ซ้าย ขวา เห็นพร้อมกันหมด

เห็นพร้อมกันหมดเลย แต่มันถามยาก เขาจึงถามว่า ทำไมเห็นพระทั้งข้างหน้าและข้างหลังพร้อมกัน

นั่นคือ การเห็นโดยรอบ ไม่ใช่เป็นการเห็นของเราแบบมองพระแก้วใสนะ เพราะ เราจะเห็นทะลุไป แต่การเห็นนี่ เหมือนกับเรา นั่งมองอยู่ด้านหน้า และนั่งมองอยู่ด้านหลังพระ พร้อมๆ กัน

โดยสรุป การนึกดวงนิมิตได้ จะมีทิศทางกำกับอยู่ แต่การเห็นดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานเป็นการเห็นโดยรอบ นี่เป็นความแตกต่างข้อที่ 1

2) ดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานมีความใสสว่างและใหญ่กว่าดวงนิมิต ดวงนิมิตนี่ปกติก็จินตนาการหรือนึกกันขนาดเท่าแก้วตาดำ ความใสสว่างก็แล้วแต่จะจินตนาการกันได้ แต่ไม่เกินความใสสว่างที่มีในโลกมนุษย์นี้ แต่ดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานนี่อย่างต่ำๆ ก็ขนาดไข่แดงของไข่ไก่ บางคนอาจจะเท่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และที่สำคัญก็คือ ใสสว่างกว่ากัน

ความใสของดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ไม่สามารถจะเปรียบเทียบกับความใสในโลกนี้ได้ เพราะ ใสและสว่างกว่านั้น

ตัวอย่าง
มีวิทยากรท่านหนึ่ง ท่านเรียนจบสาขาวิศวกรรมในระดับปริญญาโท ปัจจุบันทำงานอยู่ในเครือบริษัทปูนซีเมนต์ไทย  ท่านยังไม่เห็นดวงดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน แต่ท่านสอนหลานของท่านจนได้วิชาธรรมกายชั้นสูง

วันหนึ่งท่านถามหลานว่า กายธรรมใสสว่างขนาดไหน

หลานของท่านตอบว่า
ไม่รู้จะเปรียบเทียบอย่างไร เพราะ เอดิสันไม่เคยผลิตหลอดไฟที่สว่างเท่านี้มาก่อน
เป็นคำตอบที่ จ๊าบมาก

3) การเปลี่ยนจากดวงนิมิตเป็นดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน จะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายด้วย คือ ร่างกายจะรู้สึก โปร่ง โล่ง สบาย

ในการศึกษาพระไตรปิฎกนั้น เรามักจะพบคำนี้บ่อยๆ คือ ความสุขจากความสงบ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ไม่ค่อยมีใครมีประสบการณ์จาก ความสุขจากความสงบนี้

คนที่ปฏิบัติธรรมจนจิตสงบและเห็นดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หรือเห็นกายธรรมในท้องได้ จะรู้และเข้าใจได้ทันทีว่า

อ๋อ ความสุขที่เกิดจากความสงบมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ผมได้ผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้ว ด้วยตัวของผมเอง

โดยสรุป ผมขอถอนคำพูดและข้อเขียนที่วิพากษ์วิจารณ์พระมหาสมศักดิ์ จันทสีโล หนึ่งในคณะนักวิจัยออกทั้งหมด เพราะ ก็ขนาดเจ้าอาวาสยังสอนวิชาเบื้องต้นแบบผิดๆ ซึ่งยืนยันถึงความไม่รู้เกี่ยวกับวิชาธรรมกายของท่าน แล้วพระลูกวัดจะมารู้อะไร

แต่ความผิดพลาดของงานวิจัยชิ้นนี้ ก็ยังคงอยู่ และจะส่งผลถึงข้อผิดพลาดโดยสรุปในภาพรวมทั้งหมด ดังที่จะได้กล่าวต่อไป

ข้อบกพร่องสรุปในภาพรวม
ข้อบกพร่องในงานวิจัยชิ้นนี้ ที่เกี่ยวกับวิชาธรรมกายก็คือ งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ควรเลือกวัดพระธรรมกายเป็นกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้ง นี้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาว (Scandal) ที่ออกมาจากวัด และประเด็นเรื่องคำสอนที่ผิดๆ ที่สานุศิษย์ของวัดหลวงพ่อวัดปากน้ำกลุ่มอื่นๆ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์วัดพระธรรมกายอยู่บ่อยครั้ง

งานวิจัยนี้ควรเลือกวัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามเป็นกลุ่มตัวอย่างมากกว่า โดยผมมีเหตุผล ดังนี้

1) พระธัมชโยไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ในงานวิจัยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ใช่แต่งานวิจัยชิ้นนี้ ในงานวิจัยชิ้นอื่นด้วย

2) หลวงป๋า เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามเคยเป็นอาจารย์สอนวิจัยเลย ตอนที่ท่านเป็นฆราวาสอยู่ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มให้กับงานวิจัยชิ้นนี้มากขึ้นไปอีก และกลุ่มบุคลากรของวัดหลวงพ่อวัดปากน้ำธรรมกายาราม ไม่เคยทำปัญหาให้กับสังคมไทยเลย

ในกรณีที่คณะผู้วิจัยเลือกวัดพระธรรมกายเป็นกลุ่มตัวอย่าง ผมในฐานะนักวิจัยด้วยคนหนึ่งเหมือนกัน ขอฟังธงว่า คณะผู้วิจัยมีความลำเอียงอยู่ลึกๆ ที่ต้องการ Discredit (ขออภัยไม่รู้จะใช้ภาษาไทยคำไหน) วิชาธรรมกาย

ถ้าใช้กลุ่มตัวอย่างจากแหล่งอื่น วิชาธรรมกายก็จะโด่งดังขึ้นไปอีก หลักฐานของผมก็คือ การที่คณะผู้วิจัยเลือกหนังสือของคุณยงยุทธ์ วิริยายุทธังกูร เรื่อง หลวงพ่อวัดปากน้ำกับอานุภาพวิชาธรรมกาย มาอ้างอิง ดังที่ผมได้วิพากษ์วิจารณ์ไปแล้ว

เนื้อที่ตรงอ้างอิงเนื้อหาของคุณยงยุทธ์นั้น ไม่จำเป็นจะต้องใช้หนังสือของคุณยงยุทธ์ ควรใช้เอกสารชั้นต้น จากแหล่งใดก็ได้ พูดง่ายๆ ก็ว่า จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวิชาธรรมกายในระดับปริญญาโทก็มีหลายเล่ม

นั่นคือ ข้อผิดข้อบกพร่องในงานวิจัยเกี่ยวกับวิชาธรรมกายของงานวิจัยชิ้นนี้ สิ่งที่ผมได้รู้จากงานวิจัยชิ้นนี้อีกก็คือ บุคลากรของวัดพระธรรมกายไม่ได้มีความรู้เรื่องในวิชาธรรมกายของหลวงพ่อวัด ปากน้ำหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะ นักวิจัยที่เป็นพระภิกษุอยู่ในวัดพระธรรมกาย ไม่รู้เลยว่า งานเขียนที่ออกมานั้น ผิดพลาด

นอกจากนั้นแล้ว พระสุธรรมยานเถระ/พระธัมชโยซึ่งเป็นเจ้าอาวาสก็สอนผิดๆ ทั้งที่เป็นความรู้เบื้องต้น

พระสุธรรมยานเถระ/พระธัมชโยทำได้อย่างเดียวก็คือ เอาคุณความดีของหลวงพ่อวัดปากน้ำมาเสริมสรรค์ปั้นแต่งให้เป็นประโยชน์แก่ตัว ท่านเอง เพื่อโครงการเรี่ยไรอภิมหานิรันดร์กาล โดยล่อหลอกให้สานุศิษย์เรี่ยไรในชาตินี้ก่อน สำหรับปฏิบัติธรรมให้ไปรอปฏิบัติในชาติหน้า

ก็ยังมีคนโง่ๆ ที่เชื่อ และปฏิบัติตาม

อย่างนี้มีด้วย.....

ชาติหน้าน่ะ มีจริง ผมก็เชื่อ แต่มันจะมาเจอะกันหรือ

โง่ซะไม่มี ทำไมไม่ทำเสียตั้งแต่ชาตินี้




สมาธิในพระไตรปิฎกฯ ๗

ข้อบกพร่องในส่วนที่ 2


ข้อบกพร่องในส่วนที่ 2 ข้อบกพร่องร้ายแรงที่สุดๆ ของงานวิจัยนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิชาธรรมกายคือ ข้อความส่วนนี้ครับ

เนื้อหาในบทที่ 6 ที่ชื่อบทว่า การตีความเรื่องสมาธิสายธรรมกายในหน้า 326-328 ซึ่งคณะผู้วิจัยสรุปคำสอนของพระสุธรรมยานเถระ/พระธัมชโย นำมาอ้างอิง ไว้ดังนี้

เมื่อใจและกายผ่อนคลายดีแล้ว ก็กำหนดนึกถึงบริกรรมนิมิตดวงแก้วที่กลม ใส สะอาด บริสุทธิ์ ให้ปรากฏลอยอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ขณะที่นึกภาพดวงแก้ว หากยังไม่ปรากฏ ซึ่งเป็นเพราะใจกำลังเริ่มจะสงบ ก็ให้ท่องบริกรรมภาวนาในใจว่า สัมมาอะระหัง ไปเรื่อยๆ

โดยให้เสียงนี้ดังออกมาจากศูนย์กลางกายดังกล่าว จนกว่าจะปรากฏนึกภาพดวงแก้วได้ ก็ให้หยุดบริกรรมภาวนา

เมื่อปรากฏนิมิตเป็นดวงแก้วใสเกิดขึ้นแล้ว ให้หยุดบริกรรมภาวนาเหลือแต่การกำหนดสติเพ่งอยู่กลางดวงนิมิตอย่างเดียว...

ทำใจให้หยุดสงบเข้าไปตรงกลางดวงนิมิตเรื่อยไป ดวงนิมิตก็จะสดใสยิ่งขึ้น จนสามารถจะนึกขยายให้ใหญ่หรือเล็กลงได้ตามปรารถนา ดวงนิมิต คือ ดวงปฐมมรรค (ดวงธรรม)

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 1

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 1 คือ ข้อความนี้

เมื่อใจและกายผ่อนคลายดีแล้ว ก็กำหนดนึกถึงบริกรรมนิมิตดวงแก้วที่กลม ใส สะอาด บริสุทธิ์ ให้ปรากฏลอยอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7

ในการเริ่มปฏิบัติธรรมตามสายวิชาธรรมกายนั้น การนึกเอาดวงนิมิตไปไว้ในฐานที่ 7 เลย เป็นการผิดวิธีเป็นอย่างยิ่ง ต้องนึกไปตามฐานตั้งแต่ฐานที่ 1 - ฐานที่ 7

หลายๆ คนเถียงว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเคยสอนไว้ว่าทำได้

อันนี้จริง แต่หลวงพ่อวัดปากน้ำ หมายถึง พวกที่ปฏิบัติจนชำนาญแล้ว ไม่ใช่พวกที่เริ่มต้นนั่ง หรือนั่งมาหลายสิบปีแล้วก็ไม่เห็น ก็ทำผิดวิธีแล้วมันจะเห็นได้อย่างไร

ถ้าคณะผู้วิจัยสรุปเนื้อหาหนังสือมาถูก คือ พระสุธรรมยานเถระ/พระธัมมชโยเขียนอย่างนี้จริงๆ ก็แสดงว่า พระสุธรรมยานเถระ/พระธัมมชโยก็ไม่เข้าใจวิชาธรรมกายเหมือนกัน 

ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมพระมหาสมศักดิ์ จันทสีโล จึงไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวิชาธรรมกาย ก็เจ้าอาวาสยังรู้ไปผิดๆ สำมะหาอะไรกับพระลูกวัด

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 2

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 2 คือ ข้อความนี้

โดยให้เสียงนี้ดังออกมาจากศูนย์กลางกายดังกล่าว จนกว่า จะปรากฏนึกภาพดวงแก้วได้ ก็ให้หยุดบริกรรมภาวนา

ในการบริกรรมภาวนานั้น ไม่มีตำรามาตรฐานของวิชาธรรมกายเล่มใด ให้เสียงดังออกมาจากศูนย์กลางกาย

วิธีการที่ถูกต้องก็คือ ผู้ปฏิบัติธรรมก็ต้องท่องไป นึกไป คือ แบ่งใจท่องไปด้วย นึกไปด้วย ก็จะทำให้ใจเป็นเอกัคตารมณ์เร็วขึ้น ก็จะเห็นดวงปฐมมรรคเร็วขึ้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงเสียงแต่อย่างใด

ก็ท่องในใจ มันจะมีเสียงออกมาอย่างไร

พระสุธรรมยานเถระ/พระธัมมชโยท่านก็สอนมั่วไป ดูๆ แล้วจะไม่แตกต่างจากหนังสือของคุณยงยุทธ์เท่าไหร่

ข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงของพระสุธรรมยานเถระ/พระธัมมชโยก็คือ ท่านไม่รู้จักวิชาชั้นสูง เพราะ แค่วิชาพื้นฐานท่านยังสอนไม่ถูก และปฏิบัติไม่ได้ วิชาธรรมกายไม่มีการ หยุดคำภาวนามีแต่เปลี่ยน

วิชาธรรมกายของแท้และดั้งเดิมจะต้อง สั่งวิชาตลอดเวลา ไม่งั้นวิชาจะสดุด ทำต่อไม่ได้ทันที

ดังนั้น ในวิชาธรรมกายไม่เคยมีการหยุดท่อง มีแต่เปลี่ยนคำท่องไป

พอเรานึกนิมิตเป็นดวงแก้วใสได้แล้ว ไม่ใช่ให้ผู้ปฏิบัติหยุดคำท่อง แต่ยังคงท่องต่อไปจนกระทั่งเกิดดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 3

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 3 คือ ข้อความนี้

เมื่อปรากฏนิมิตเป็นดวงแก้วใสเกิดขึ้นแล้ว ให้หยุดบริกรรมภาวนาเหลือแต่การกำหนดสติเพ่งอยู่กลางดวงนิมิตอย่างเดียว

ดังที่ได้อธิบายไปแล้วว่า เมื่อนึกดวงนิมิตแก้วใสได้แล้ว ไม่ใช่หยุดภาวนาสัมมาอะระหัง แต่ต้องภาวนาต่อ จนกว่าจะเกิดดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

การที่พระสุธรรมยานเถระ/พระธัมมชโยให้หยุดภาวนา เหลือแต่กำหนดสติเพ่งอยู่กลางดวงนิมิตอย่างเดียว เป็นการสอนที่ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง ผู้ปฏิบัติธรรมก็จะไม่รู้จะเพ่งอยู่ตรงไหน

ในการสอนที่เป็นของจริงของแท้นั้น ดวงแก้วกลมใสจะมีจุดศูนย์กลางเล็กเท่าปลายเข็มอยู่ ถ้าผู้ปฏิบัติสามารถทำได้ก็ให้ส่งใจไปที่จุดเล็กใสกลางดวงเลย แต่ต้องท่องสัมมาอะระหังไปด้วย

โดยปกติแล้ว ตอนที่นึกถึงดวงนิมิตได้นั้น ใจของผู้ปฏิบัติจะยังไม่นิ่งพอ ส่วนใหญ่จึงจะนึกถึงจุดเล็กใสกลางดวงนิมิตไม่ได้ ผู้สอนควรจะให้ผู้ปฏิบัติส่งใจไปที่ดวงนิมิต ท่องไปเรื่อยจนกว่าจะเห็นดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 4

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 4 คือ ข้อความนี้

ทำใจให้หยุดสงบเข้าไปตรงกลางดวงนิมิตเรื่อยไป ดวงนิมิตก็จะสดใสยิ่งขึ้น

ข้อความที่ว่า ดวงนิมิตก็จะสดใสยิ่งขึ้นนั้น ไม่เชิงถูกต้องนัก เพราะ ถ้าใจยิ่งนิ่งไปมากเข้า ดวงนิมิตจะสว่างใสยิ่งขึ้น ไม่ใช่สดใส

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 5

ข้อผิดพลาดประเด็นที่ 5 คือ ข้อความนี้

จนสามารถจะนึกขยายให้ใหญ่หรือเล็กลงได้ตามปรารถนา

ตรงนี้ถ้าถามว่า ผู้ที่เห็นดวงนิมิตจะทำได้ไหม  ตอบว่า ทำได้

แต่ผู้สอนไม่ควรให้ผู้ปฏิบัติธรรม มัวไปนั่งนึกขยายให้ดวงใหญ่ขึ้น และทำให้หดเล็กลงมา เพราะ มันเสียเวลาการปฏิบัติ ควรจะให้ท่องคำภาวนาต่อไป จนกระทั่งเห็นดวงปฐมมรรค/ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ก็ให้เปลี่ยนคำท่อง จากสัมมาอะระหังเป็นหยุดในหยุด

ต่อไปก็ให้สมมุติว่า ใจของผู้ปฏิบัติธรรมเป็นเข็มเย็บ แล้วก็ส่งเข็มใจไปกลางดวงใส ท่องใจหยุดในหยุด นึกให้เห็นจุดเล็กใสเท่าปลายเข็มกลางดวงใส

เมื่อเห็นจุดเล็กใสแล้ว ก็ส่งใจเข้าไปที่จุดเล็กใสเท่าปลายเข็ม ท่องใจหยุดในหยุด แล้วก็นึกให้จุดเล็กใสว่างออกไป ก็จะพบกายใหม่หรือดวงใหม่ แล้วแต่จะกำหนดหลักสูตรไหนให้ผู้ปฏิบัติเรียน

ถ้าเป็นการสอนของพวกผม ซึ่งเป็นคณะลูกศิษย์ของคุณลุงการุณย์ บุญมานุช ในการสอนเบื้องต้น ก็จะสอนให้ผู้ปฏิบัตินึกให้จุดเล็กใสว่างออกไป ก็จะเกิดกายธรรมพระโสดา หน้าตักกว้าง 5 วา สูง 5 วา นั่งขัดสมาธิอยู่ในกลางว่างใส หันหน้าไปทางเดียวกับเรา